อาการ Hyperglycemia คือ
02-0. 05 units/kg/h และเปลี่ยน IV fluid เป็น 5DN/2 rate 150-250 mL/h โดยรักษาค่า glucose ให้อยู่ระหว่าง 200-300 mg/dL osmolality < 315 mg/dL และ glucose อยู่ระหว่าง 200-300 mg/dL และผู้ป่วยตื่นดี กินได้ ให้หยุด glucose IV ให้ RI SC ก่อนจะหยุด RI drip 30-60 นาที และให้ 80% ของ long-acting insulin ก่อนหยุด RI drip 1-2 h และตรวจ glucose ทุก 2 ชั่วโมง Bicarbonate ถ้า pH < 7. 0 ให้ 7. 5%NaHCO 3 100 mL + sterile water 400 mL + KCl 20 mEq IV drip ใน 2 ชั่วโมง Phosphate ถ้า phosphate < 1. 0 mg/dL ให้ K 2 PO 4 2. 5-5 mg/kg IV > 6 h Magnesium ให้ MgSO 4 1-2 gm IV > 1 h สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังได้แก่ Hydration status เพื่อปรับ IV fluids ทุก 1 ชั่วโมง Glucose POCT ทุก 1 ชั่วโมง Electrolytes, BUN, Cr ทุก 2 Ref: Tintinalli ed8th
- Hyperglycemia คือ อาการ
- Hypoglycemia กับ Autonomic Failure - GotoKnow
- ภาวะน้ำตาลในเลือด สูง | โรงพยาบาลเปาโล - Paolo Hospital
- น้ำตาลในเลือดสูง - นมผึ้ง Royal Jelly ความรู้ บทความ
Hyperglycemia คือ อาการ
Pneumonia, UTI), AMI, renal insufficiency, stroke, mesenteric ischemia, GIB, pulmonary embolism, pancreatitis, severe burns, parenteral-/enteral alimentation, peritoneal/hemodialysis, heat-related illness, rhabdomyolysis; drugs (diuretics, lithium, β -blockers, mannitol, CPZ, cimetidine, glucocorticoids, 2 nd -gen. antipsychotics, phenytoin, CCB) การวินิจฉัย HHNS: BG > 600 mg/dL, calculated plasma osmolality > 315 mOsm/kg, HCO 3 - > 15 mEq/L, pH > 7. 3, minimal หรือ no ketonemia ** แต่อาจพบภาวะ metabolic acidosis จาก lactic acidosis (tissue hypoperfusion), azotemia หรือพบ ketonemia จาก starvation ketosis ร่วมด้วยได้ Ix: Glucose POCT; CBC, H/C, BUN, Cr, electrolyte, Ca, Mg, PO 4, serum osmolality, ketones; UA, urine osmolality, U/C; CXR, ECG; Lab อื่นๆที่สงสัย เช่น cardiac enzyme, CPK, VBG, TFTs, procalcitonin, coagulation profiles, toxicology, CT, CSF studies Na ที่รายงานจาก lab ให้แก้ตามระดับของ glucose โดยเพิ่ม Na 1. 6 mEq ต่อ 100 mg ของ glucose ที่มากกว่า 100 mg/dL และเพิ่ม 2. 4 mEq ต่อ 100 mg ของ glucose ที่มากกว่า 400 mg/dL Calculated effective serum osmolality = (2 x Na) + glucose/18 Tx: Fluid และ Sodium ผู้ใหญ่จะเสียน้ำ 20-25% ของ TBW (50% ของ BW ในคนสูงอายุ) หรือประมาณ 8-12 L โดยแก้ครึ่งหนึ่งใน 12 ชั่วโมงแรก และแก้อีกครึ่งหนึ่งใน 24 ชั่วโมงต่อมา ถ้ามีภาวะ severe hypovolemia (HR > 120, SBP < 100, RR > 20, UO < 0.
8 - 3. 2 mmol/L) และจากการศึกษาวิจัยพบว่า อายุที่มากขึ้นเป็น ปัจจัยส่งเสริมให้ระบบ Counter Regulatory Response ทำงานปล่อย BS ออกมาช้าลง และทำให้อาการที่แสดงออกในภาวะ BS ต่ำ เปลี่ยนไปจากวัยหนุ่มสาว โดยระยะเวลาของการเป็นเบาหวานไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้คุณหมอวรวิทย์ยังได้ทบทวนเกี่ยวกับค่าระดับน้ำตาลที่ลดลงจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายคือ ที่ BS 4. 6 mmol/l (83 mg/dl) Insulin จะหมดไปจากระบบ ที่ BS 3. 8 smmol/l ( 70 lmg/d) Counter Regulatory Response จะเริ่มปล่อย Glucagon และ Epineprine ที่ BS 2. 8 -3. 2mmol/l ( 50-58 mg/dl) จะเริ่มมีอาการแสดงทาง Autonomic เช่น เหงื่อออก ใจสั่น หิว หัวใจเต้นเร็วขึ้น และ Neuroglycopenicตามมา ที่ BS 2.
Hypoglycemia กับ Autonomic Failure - GotoKnow
3-1. 6 mmol/L Exogeneous solutes เช่น manitol และ glycerol จะทำให้ plasma Na ลดระดับลง โดยอาศัยกลไกเหมือนกับภาวะ hyperglycemia 3. Hypoosmolar hyponatremia ถือว่าเป็น true hyponatremia เกิดจากหลายสาเหตุ อาจแบ่งตามปริมาณเลือดในร่างกาย (blood volume status) ได้ดังนี้ 3. 1 hypovolemic hyponatremia เกิดจากมีการสูญเสียสารน้ำ (มีทั้ง Na และน้ำ) แต่เสียปริมาณ Na มากกว่าปริมาณน้ำ ต้นเหตุของการสูญเสียอาจอยู่ที่ไต (renal loss) หรือนอกไต (extrarenal loss) โดยใช้ปริมาณ urine Na เป็นตัวช่วยบอกต้นเหตุของการสูญเสีย ผู้ป่วยจะมีลักษณะของการขาดน้ำ (dehydration) ได้แก่ ปากแห้ง ผิวหนังแห้ง ชีพจรเร็ว Jugular veneous pressure ลดต่ำลง 3. 1. 1 renal loss (urine Na > 20 mmol/day) สาเหตุได้แก่ - Diuretics - Mineralocorticoid deficiency - Salt-losing nephropathy - Bicarbonate loss: proxinal RTA, metabolic acidosis 3. 2 extrarenal loss (urine Na < 20 mmol/L) ได้แก่ - Vomitting - Diarrhea - การสูญเสียของเหลวเข้าไปในช่องท้อง (third space loss) - การได้ยาระบาย - เหงื่อออกมากๆ - burn ในกลุ่มนี้ hyponatremia เกิดได้เพราะภาวะ hypovolemia และภาวะ ECV ต่ำ จะไปกระตุ้นการหลั่ง ADH รวมกับการที่ผู้ป่วยดื่มน้ำทดแทน จึงทำให้เกิด plasma Na ลดต่ำลง 3.
รวมถึงดื่มน้ำสะอาดมากๆ หากมีอาการชักกระตุกเฉพาะที่ หรือมีอาการซึม และมีระดับน้ำตาลในเลือดมาก ให้พบแพทย์ทันที การป้องกัน ควบคุมเบาหวานให้ดี โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งด้านการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การรับประทานยา ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ กรณีไม่สบายควรไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง และควรบอกแพทย์ว่าเป็นเบาหวาน อย่าหยุดยาฉีด หรือยารับประทาน แม้ว่าจะรับประทานอาหารได้น้อย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โทร. 0-2271-7000 ต่อ เบาหวานและเฉพาะโรค
- Data mining(ดาต้า ไมนิ่่ง) คืออะไร การทำเหมืองข้อมูล
- การ ดอง มะปราง
- Hyperglycemia คือ อาการ
- หา งาน ลำปาง หนา
- โปรแกรม dj mac
- ภาวะน้ำตาลในเลือด สูง | โรงพยาบาลเปาโล - Paolo Hospital
- อาการ ไอ ระคาย คอ
- สาวเซ็ง! เจอชายปริศนาเขวี้ยงของใส่รถกระบะ | ข่าวเที่ยงอมรินทร์ | 17 เม.ย. 65 | AMARIN TVHD34
- เร็ว แรง ทะลุ นรก ภาค 2
- เลข 1688 ความ หมาย
- สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง บางเขน
ภาวะน้ำตาลในเลือด สูง | โรงพยาบาลเปาโล - Paolo Hospital
5 mL/kg/h, skin turgor, cool, pale, capillary refill > 3 s) ให้ bolus 0. 9% NSS 15-20 mL/kg/h ในชั่วโมงแรก และประเมิน hydration status ซ้ำทุกชั่วโมง เมื่อผู้ป่วยพ้นจากภาวะ hypovolemia แล้วให้ 0. 9% NaCl ( ถ้า corrected Na < 135 mEq/L) หรือ 0. 45% NaCl ( ถ้า corrected Na > 135 mEq/L) rate 4-14 mL/kg/h โดยพิจารณาตาม renal และ cardiac function ทำการ monitor UO และ CVP Potassium Total-body K deficits ประมาณ 4-6 mEq/kg ( อาจสูงถึง 10 mEq/kg) ถ้า K + < 3. 3 mEq/L ให้ K 20-40 mEq/h ( แนะนำให้ทาง central line) และตรวจ K ทุก 1 ชั่วโมง จนกว่า K + > 3. 5 mEq/L 3. 3-5. 0 mEq/L ให้ KCl 10-20 mEq/h และตรวจ K ทุก 1-2 ชั่วโมง รักษาระดับ K + อยู่ระหว่าง 4-5 mEq/L K > 5. 0 mEq/L ให้ตรวจ K ทุก 1-2 ชั่วโมง Insulin ( เมื่อไม่มีภาวะ hypokalemia < 3. 3 mEq/L อาจให้หลังจากเริ่ม fluid bolus) ให้ RI drip 0. 1-0. 14 units/kg/h หลังจากให้ 1 ชั่วโมง ถ้า serum glucose ไม่ลดลง > 10% อาจให้ bolus RI 0. 1 units/kg และสามารถเพิ่ม insulin rate 2 เท่า ทุกๆชั่วโมง ถ้า glucose ลดลง < 50 mg/kg/h ( หรือถ้า glucose ลดเร็ว > 70 mg/kg/h ให้ลด insulin rate ลงครึ่งหนึ่ง) ตรวจ serum glucose ทุก 1 ชั่วโมง เมื่อ glucose < 300 mg/dL ให้ลด rate RI ลงเป็น 0.
2 Hypervolemic hyponatremia ภาวะที่ทำให้เกิดการบวม สามารถทำให้เกิด hyponatremia ได้ ถ้าภาวะนี้เกิดร่วมกับการที่มี ECV ลดลง จึงทำให้มีการกระตุ้นการหลั่งของ ADH 3. 2. 1 Acute or Chronic renal failure (ค่า urine Na > 20 mmol/d) 3. 2 Edematous disorder (ค่า urine Na < 20 mmol/d) - congestive heart failure - cirrhosis - nephrotic syndrome 3. 3 Normovolemia hyponatremia 3. 3. 1 Syndrome of inappropriate secretion of ADH (SIADH) เกิดขึ้นเนื่องจากความผิดปกติในการควบคุมการหลั่ง ADH ทำให้ ADH หลั่งมากผิดปกติ ทำให้ไตไม่สามารถขับน้ำได้ตามปกติ ในขณะที่การขับโซเดียมเป็นปกติ สาเหตุที่สำคัญได้แก่ มะเร็ง, โรคปอด, ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง 3. 2 chronic excess intake of water เช่น primary polydipsia 3. 3 adrenal insufficiency เนื่องจากโดยปกติ cortisol จะยับยั้งการหลั่ง ADH เมื่อขาด cortisol จะทำให้มีการหลั่ง ADH มากขึ้น 3. 4 reset osmostat ในคนท้องจะมีค่า plasma Na ต่ำกว่าปกติ 5 mmol/L ลักษณะของกลุ่มอาการ SIADH ได้แก่ 1. hyponatremia และ hypoosmolarity 2. urine osmolarity มีค่าสูงผิดปกติ (> 100 mosm/kg) 3. urine Na > 20 mmol/day 4.
น้ำตาลในเลือดสูง - นมผึ้ง Royal Jelly ความรู้ บทความ
มีภาวะ Normovolemia 5. มีการทำงานของต่อมหมวกไต ไต และ thyroid ที่ปกติ 6.
Hyponatremia หมายถึงภาวะที่ค่า plasma Na มีค่าต่ำกว่า 135 mmol/L เนื่องจาก Na + เป็นไอออนที่สำคัญ ที่ทำให้เกิด plasma osmolarity ส่วนใหญ่ของภาวะ hyponatremia จึงบ่งชี้ถึงภาวะ hypoosmolarity อย่างไรก็ตาม อาจเกิดภาวะ hyponatremia ร่วมกับภาวะ hyperosmolarity หรือร่วมกับภาวะ normoosmolarity ก็ได้ ดังที่ทราบแล้วว่า ปริมาณน้ำในร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการควบคุม plasma Na ภาวะ hyponatremia จึงมักเกิดจากการมีปริมาณน้ำในร่างกายเพิ่มขึ้น (โดยที่ปริมาณโซเดียมในร่างกายอาจเพิ่มขึ้น ลดลง หรือปกติก็ได้) ซึ่งเกิดจากกลไก 2 ประการ คือ 1. การขับน้ำทางไตลดลง เป็นสาเหตุหลัก 2.
Plasma osmolarity เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็น true hyponatremia 2. Urine osmolarity เพื่อดูไตขับน้ำเป็นปกติหรือไม่ อาจช่วยในการแยกโรคได้ ถ้า urine osmolarity < 100 mosm/kg แสดงว่า ADH สามารถถูกยับยั้งได้ ซึ่งสามารถพบได้ใน primary polydipsia หรือ reset osmolarity ถ้า urine osmolarity มากกว่า 100 mosm/kg แสดงถึงความบกพร่องในการขับน้ำ 3. Urine Na ใช้ในการแยกกลุ่มของ hyponatremia